วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

พระสิวลีเถระ (พระฉิม)

 พระสิวลีเถระ เป็นสาวกผู้ใหญ่องค์หนึ่งในจำนวน ๘๐ องค์ เป็นผู้ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะ คือเป็นผู้เลิศในทางมีลาภสักการะมาก พุทธศาสนิกชนนิยมเรียกท่านสั้นๆ ว่า พระฉิม ประวัติความเป็นมาของท่านมีหลักฐานปรากฎอยู่ในธรรมบทภาค ๔ ดังจะชี้ให้เห็นย่อๆ ดังนี้ 






พระสีวลีเถระเดิมเป็นพระโอรสของพระนางสุปปะวาสา ราชธิดาของพระเจ้ากรุงโกลิยะเชื้อพระวงศ์ฝ่ายพระมารดาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อยังปฎิสนธิอยู่ในครรภ์ของพระมารดา ก็ปรากฎว่าพระมารดาเป็นผู้อุดมด้วยลาภสักการะนานาประการ ท่านอยู่ในครรภ์นานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน เพราะบุพพกรรมที่สร้างไว้แต่บุเรชาติปางก่อน เมื่อครั้งที่ท่านเสวยราชย์เป็นกษัตริย์ชาตินักรบได้ยกกองทัพไปล้อมเมืองอริราชศัตรูนานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน จึงไดอยู่ในครรภ์มารดานานเท่ากับกรรมที่ล้อมเมืองไว้ เป็นการชดใช้กรรมเก่า เมื่อถึงคราวประสูติได้โดยง่าย ดุจเทน้ำออกจากหม้อฉะนั้น พระประยูรญาติทั้งหลายจึงได้ถวายพระนามว่า สิวลีกุมาร








เมื่อท่านเจริญวัยเติบโต ก้ได้ออกบวชในพุทธศาสนา ในสำนักของพระธรรมเสนาบดีสารีบุตร ขณะที่ปลงพระเกศาก็ได้พิจารณาตะจะปัญจกะกัมมัฎฐานตามที่อาจาร์ยสอน เมื่อปลงพระเกศาเสร็จก็ได้บรรลุพระอรหัตผลเป็นอเสขะบุคคลในพระพุทธศาสนา ตั้งแต่นั้นมาลาภสักการะก็ไหลมาเทมายังท่านอย่างมากมาย พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายได้อาศัยลาภสักการะที่เกิดขึ้นจากท่านเลี้ยงชีพด้วยความสุขกาย ดังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับลาภสักการะที่เกิดจากท่านดังนี้








ในกาลครั้งหนึ่ง พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์พุทธบริวารเป็นอันมาก มีพระสารีบุตรเป็นต้น ได้เสด็จไปยังป่าไม้สะแก อันเป็นที่พำนักพักพิงอาศัยบำเพ็ญวปัสสนากรรมฐานของท่านพระเรวตะ ซึ่งเป็นน้องชายคนเล็กของพระสารีบุตร เมื่อเสด็จพุทธดำเนินถึงทางสองแพร่ง พระอานนท์พุทธอุปัฎฐากได้กราบทูลว่า ทางหนึ่งเป็นทางอ้อม มีมนุษย์อาศัย พระภิกษุสงฆ์ไม่ลำบากด้วยภตกิจ อีกทางหนึ่งเป็นทางตรง เป็นป่าดงรกรฎ ไม่มีมนุษย์อาศัย เต็มไปด้วยภยันตรายจากมนุษย์และสัตว์ร้ายทั้งปวง พวกเราควรไปทางไหน พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า พระสิวลีมากับพวกเราด้วยมิใช่หรือ ดังนั้นจงถือเอาทางตรงนั่นแหละ เพราะพวกเทพยดา และอมนุษย์จะทำการสักการะบูชาแก่พระสิวลี ทุกระยะทางจะสะดวกสบายด้วยภัตตาหารและที่พักอาศัย พระบรมศาสดาและพระภิกษุสงฆ์ก็เสด็จไปทางตรงนั้น และสะดวกสบายด้วยภัตตาหารและที่พักทุกระยะทาง เพราะผลบุญบารมีของพระสิวลีองค์เดียว








พระสิวลีเป็นผู้มีบุญญาธิการในทางลาภสักการะอย่างน่าอัศจรรย์ ท่านโบราณจารย์จึงนิยมสร้างรูปของพระสิวลีในแบบพระธุดงค์รัดประคตอก ห่มดอง มือขวายกขึ้นเสมออกถือด้ามกลด ไว้ตัวกลดลงบนบ่า ที่จะงอยบ่าคล้องสะพายบาตร มือซ้ายถือตาละปัตร ถ้าผู้ใดมีไว้สักการะบูชาประจำบ้าน จะนำโชคลาภมหาศาลมาสู่ท่าน จะออกจากบ้านไปค้าขายยังแห่งหนตำบลใด ก็ให้ภาวนาพระคาถาและบูชาพระสิวลีเสียก่อนทุกครั้งท่านจะซื้อง่ายขายคล่องดีนัก หรือท่านจะติดต่อธุรกิจการที่เกี่ยวกับเงินทองใดๆ ก็จงท่องบ่นภาวนาพระคาถาและบูชาพระสิวลีเสียก่อนเสมอ ธุรกิจของท่านจะประสบความสำเร็จและราบรื่นดีนัก








คาถาบูชาพระสิวลี




สิวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตา นะระปูชิโต




โส ระโห ปัจจยาทิมหิ สิวะลี จะมะหาเถโร




ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ 




อะหัง วันทามิ สัพพทา สิวะลี เถรัสสะ เอตัง




คุณัง สะวัสติลาภัง ภะวันตุ เม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น